การประเมินด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
หมวดที่ 5 สภาพแวดล้อมและความปลอดภัย
ประเด็น ตัวชี้วัด | ผลการดำเนินงาน | หลักฐาน |
---|---|---|
5.1 อากาศในสำนักงาน | ||
5.1.1 การควบคุมมลพิษทางอากาศในสำนักงาน (1) มีแผนการดูแลบำรุงรักษา ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์เอกสาร (Printer) ม่าน มูลี่ พรมปูพื้นห้อง (ขึ้นอยู่กับสำนักงาน) (2) มีการกำหนดความถี่ หน้าที่ความรับผิดชอบตามแผนการดูแลบำรุงรักษา (3) มีผลการปฏิบัติตามแผนที่กำหนดใน ข้อ 1 (4) มีการควบคุมมลพิษทางอากาศจากการปฏิบัติในข้อ 1 (5) การจัดวางเครื่องพิมพ์เอกสาร เครื่องถ่ายเอกสาร (Printer) ให้ห่างไกลผู้ปฏิบัติงาน (6) การควบคุมควันไอเสียรถยนต์บริเวณสำนักงาน เช่น ติดป้ายดับเครื่องยนต์ (7) การป้องกันอันตรายจากการพ่นยากำจัดแมลง (ถ้ามี) (8) มีการสื่อสารหรือแจ้งให้ทราบถึงการเกิดมลพิษทางอากาศจากกิจกรรมต่างๆ เพื่อการเตรียมความพร้อมและระวังการได้รับอันตราย (สามารถพิจารณาจากเอกสารหรือภาพถ่ายเป็นหลักฐานประกอบ) |
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศได้ดำเนินการตามแนวทางการดูแลบำรุงรักษาอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสำนักงานอย่างเหมาะสม โดยมีการจัดทำแผนการดูแลบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์เอกสาร (Printer) ม่านบังแดดและพื้นห้อง (ตามความเหมาะสมของแต่ละสำนักงาน) เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ ภายใต้แผนดังกล่าว ได้มีการกำหนดความถี่ในการตรวจสอบ การบำรุงรักษา รวมถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้องไว้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งมีการติดตามผลการปฏิบัติงานตามแผนที่ได้กำหนดไว้ นอกจากนี้ หน่วยงานยังให้ความสำคัญต่อการควบคุมมลพิษทางอากาศที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้หรือบำรุงรักษาอุปกรณ์ดังกล่าว โดยได้จัดวางเครื่องพิมพ์เอกสารและเครื่องถ่ายเอกสารให้อยู่ในบริเวณที่ห่างจากพื้นที่ปฏิบัติงานของบุคลากร เพื่อลดการสัมผัสกับสารระเหยหรืออนุภาคฝุ่นละอองที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ ในส่วนของการควบคุมควันไอเสียจากรถยนต์ที่จอดบริเวณสำนักงาน ได้มีการติดตั้งป้ายห้ามจอดไว้หน้าบริเวณสำนัก และหากมีผู้ใช้บริการมาจอดรถเป็นการชั่วคราว ทางสำนักจะประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือให้ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ เพื่อป้องกันการสะสมของมลพิษในอากาศ สำหรับกรณีที่มีการพ่นยากำจัดแมลงในพื้นที่สำนักงาน หน่วยงานได้มีมาตรการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นแก่บุคลากร โดยแจ้งล่วงหน้าและดำเนินการภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ได้มีการสื่อสารและแจ้งเตือนให้บุคลากรทราบถึงการเกิดมลพิษทางอากาศจากกิจกรรม ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมและป้องกันตนเองจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม |
![]() |
5.1.2 มีการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่หรือมีการกำหนดพื้นที่สูบบุหรี่ที่เหมาะสมและปฏิบัติตามที่กำหนด (1) มีการรณรงค์การไม่สูบบุหรี่ และมีการสื่อสารเกี่ยวกับอันตรายพิษภัยจากการสูบบุหรี่ (2) มีการติดสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่ (3) มีการติดสัญลักษณ์เขตสูบบุหรี่ (4) กำหนดเขตสูบบุหรี่ของหน่วยงานและมีการจัดการก้นบุหรี่ โดยเขตสูบบุหรี่จะต้องไม่อยู่ในบริเวณที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนที่อยู่บริเวณข้างเคียง และไม่อยู่ในบริเวณทางเข้า – ออกของสถานที่ที่ให้มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ และไม่อยู่ในบริเวณที่เปิดเผยอันเป็นที่เห็นได้ชัดแก่ผู้มาใช้สถานที่นั้น (5) ไม่พบการสูบบุหรี่ หรือก้นบุหรี่นอกเขตสูบบุหรี่ (กรณีหน่วยงานเป็นสถานที่ห้ามสูบบุหรี่ไม่ต้องดำเนินการข้อ (3) – (4) และจะต้องไม่พบการสูบบุหรี่ หรือก้นบุหรี่ ตามข้อ (5)) |
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลับราชภัฏสงขลาได้ดำเนินมาตรการเพื่อควบคุมและลดผลกระทบจากการสูบบุหรี่ โดยมีการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับพิษภัยและอันตรายจากการสูบบุหรี่ รวมทั้งมีการสื่อสารเผยแพร่ข้อมูลให้แก่บุคลากรและประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ได้มีการกำหนดเขตพื้นที่ปลอดบุหรี่โดยชัดเจน พร้อมติดตั้งสัญลักษณ์แสดงเขตปลอดบุหรี่ในจุดที่เห็นได้ชัดเจน รวมถึงจัดให้มีเขตสูบบุหรี่เฉพาะ โดยมีการติดตั้งสัญลักษณ์แสดงเขตสูบบุหรี่ให้ชัดเจนเช่นกัน ทั้งนี้ เขตสูบบุหรี่ดังกล่าวได้รับการจัดสรรให้อยู่ในบริเวณที่เหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนบริเวณข้างเคียง ไม่อยู่ในบริเวณทางเข้า–ออกของสถานที่ที่มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ และไม่อยู่ในบริเวณที่เปิดเผย ซึ่งเป็นที่เห็นได้ชัดของผู้มาใช้บริการสถานที่นั้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดการและเก็บก้นบุหรี่อย่างเหมาะสม เพื่อรักษาความสะอาดและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ |
![]() |
5.1.3 การจัดการมลพิษทางอากาศจากการก่อสร้าง ปรับปรุง อาคารหรืออื่นๆ ในสำนักงานที่ส่งผลต่อบุคลากร (1) กำหนดมาตรการรองรับเพื่อจัดการมลพิษทางอากาศจากการก่อสร้าง ปรับปรุงอาคาร (2) ปฏิบัติตามมาตรการที่ได้กำหนดในข้อ (1) แนวทางการกำหนดมาตรการมีดังนี้ - มีพื้นที่ทำงานสำรองให้กับบุคลากร - มีที่กั้นเพื่อป้องกันมลพิษทางอากาศที่จะส่งผลกระทบกับบุคลากรหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง - มีการสื่อสารหรือติดป้ายแจ้งเตือน เพื่อการเตรียมความพร้อมและระวังการได้รับอันตราย |
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้กำหนดมาตรการรองรับเพื่อจัดการกับมลพิษทางอากาศที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมก่อสร้างหรือการปรับปรุงอาคาร เพื่อป้องกันผลกระทบต่อบุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมาตรการดังกล่าวได้ถูกออกแบบให้ครอบคลุมทั้งด้านความปลอดภัย สุขอนามัย และความสะดวกในการปฏิบัติงาน แนวทางการดำเนินมาตรการประกอบด้วย การจัดเตรียมพื้นที่ทำงานสำรองให้กับบุคลากรในช่วงที่มีการก่อสร้างหรือปรับปรุง การติดตั้งสิ่งกั้นหรือวัสดุป้องกันเพื่อจำกัดการแพร่กระจายของมลพิษทางอากาศไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ทำงาน และการจัดทำป้ายแจ้งเตือนหรือสื่อสารให้บุคลากรได้รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องล่วงหน้า เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมและป้องกันตนเองจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ หน่วยงานได้ดำเนินการตามมาตรการที่ได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การปฏิบัติงานภายในสำนักงานสามารถดำเนินไปได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม |
![]() |
5.2 แสงในสำนักงาน | ||
5.2.1 มีการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่าง (โดยอุปกรณ์การตรวจวัดความเข้มของแสงสว่างที่ได้มาตรฐาน) และดำเนินการแก้ไขตามที่มาตรฐานกำหนด (1) มีการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่างประจำปี พร้อมแสดงหลักฐานผลการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่างเฉพาะจุดทำงานและพื้นที่ทำงาน (2) เครื่องวัดความเข้มของแสงสว่างจะต้องมีมาตรฐานและได้รับการสอบเทียบ (แสดงหลักฐานใบรับรอง) (3) ผลการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่างจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานกฎหมายกำหนด (4) ผู้ที่ตรวจวัดความเข้มของแสงสว่างจะต้องเป็นผู้ที่สามารถใช้เครื่องมือได้อย่างถูกต้อง หรือเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด (5) หลักฐานภาพประกอบการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่างเฉพาะจุดทำงานและพื้นที่ทำงาน |
เนื่องจากทางสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ยังไม่ได้ดำเนินการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่าง และเพื่อให้สภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานของบุคลากรภายในสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา มีความเหมาะสมและปลอดภัยต่อสุขภาพ สำนักวิทยบริการฯ จึงได้จัดทำแผนดำเนินการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่างในพื้นที่ปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีแนวทางดำเนินงานตามตารางแผนดำเนินงาน: การตรวจวัดความเข้มของแสงสว่าง (ปีงบประมาณ 2569) ดังแสดงในหลักฐานตัวชี้วัด |
![]() |
5.3 เสียง | ||
5.3.1 การควบคุมมลพิษทางเสียงภายในอาคารสำนักงาน (1) กำหนดมาตรการรองรับเพื่อจัดการเสียงดังที่มาจากภายในสำนักงาน (2) ปฏิบัติตามมาตรการที่ได้กำหนดในข้อ (1) ถ้าพบว่ามีเสียงดังที่มาจากภายในสำนักงาน |
เพื่อให้สภาพแวดล้อมภายในสำนักงานเอื้อต่อการเรียนรู้และการปฏิบัติงานของบุคลากรและผู้ใช้บริการ สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จึงได้จัดทำมาตรการและแผนควบคุมมลพิษทางเสียง โดยมุ่งเน้นการจัดการเสียงดังที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานอุปกรณ์ การสื่อสาร หรือกิจกรรมภายในอาคารสำนักงาน อันอาจรบกวนการปฏิบัติงานและส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ปฏิบัติงานและผู้รับบริการ |
![]() |
5.3.2 การจัดการเสียงดังจากการก่อสร้าง ปรับปรุง อาคารหรืออื่นๆ ในสำนักงานที่ส่งผลต่อบุคลากร (1) กำหนดมาตรการรองรับเพื่อจัดการเสียงดังที่เกิดจากการก่อสร้าง ปรับปรุงอาคาร (2) ปฏิบัติตามมาตรการที่ได้กำหนดในข้อ (1) แนวทางการกำหนดมาตรการมีดังนี้ - มีพื้นที่ทำงานสำรองให้กับบุคลากร - มีการสื่อสารหรือติดป้ายแจ้งเตือน เพื่อการเตรียมความพร้อมและระวังการได้รับอันตราย |
เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากเสียงดังที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมก่อสร้างหรือปรับปรุงอาคารภายในสำนักงาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศได้จัดทำแผนและมาตรการรองรับอย่างเป็นระบบ แสดงในหลักฐาน ดังนี้ |
![]() |
5.4 ความน่าอยู่ | ||
5.4.1 มีการวางแผนจัดการความน่าอยู่ของสำนักงานโดยจะต้องดำเนินการดังนี้ (1) จัดทำแผนผังของสำนักงานทั้งในตัวอาคารและนอกอาคาร โดยจะต้องกำหนดพื้นที่ใช้งานอย่างชัดเจน เช่น พื้นที่ทำงาน ห้องประชุม พื้นที่ส่วนรวม พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ พื้นที่สีเขียว เป็นต้น โดยจะต้องมีการสื่อสารด้วยป้ายหรืออื่นๆ ที่เหมาะสมเพื่อบ่งชี้ (2) มีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างเหมาะสมทั้งพื้นที่เฉพาะ และพื้นที่ทั่วไป ทั้งในอาคารและนอกอาคาร (3) มีการกำหนดเวลาในการดูแลรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งพื้นที่เฉพาะ และพื้นที่ทั่วไป ทั้งในอาคารและนอกอาคาร เช่น 5ส Big cleaning Day (4) มีแผนการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในอาคารหรือบริเวณโดยรอบอาคาร หรือคงรักษาไว้ ตามบริบทของหน่วยงาน และมีการปฏิบัติจริงตามแผน |
การวางแผนจัดการความน่าอยู่ของสำนักงานสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ได้ดำเนินการวางแผนจัดการความน่าอยู่ของสำนักงานโดยมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
|
![]() |
5.4.2 ร้อยละการใช้สอยพื้นที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่สำนักงานกำหนด |
![]() |
|
5.4.3 ร้อยละการดูแลบำรุงรักษาพื้นที่ต่างๆ เช่น พื้นที่สีเขียว พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ พื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ทำงาน เป็นต้น |
![]() |
|
5.4.4 มีการควบคุมสัตว์พาหะนำโรคและดำเนินการได้ตามที่กำหนด (1) มีการกำหนดแนวทางการป้องกันสัตว์พาหะนำโรคในสำนักงานอย่างเหมาะสม ได้แก่ นกพิราบ หนู แมลงสาบ และอื่นๆ (2) มีการกำหนดความถี่ในการตรวจสอบร่องรอยสัตว์พาหะนำโรคอย่างน้อยที่สุดเดือนละ 1 ครั้ง (3) มีการตรวจสอบร่องรอยตามความถี่ที่ได้กำหนด (เฉพาะตอนกลางวัน) (4) มีแนวทางที่เหมาะสมกับการจัดการเมื่อพบร่องรอยสัตว์พาหะนำโรค (5) ไม่พบร่องรอยหรือสัตว์พาหะนำโรคในระหว่างการตรวจประเมิน หมายเหตุ การควบคุมสัตว์พาหะนำโรค สำนักงานสามารถควบคุมและจัดการได้เอง หรือว่าจ้างหน่วยงานเฉพาะมาดำเนินการแทน |
การควบคุมสัตว์พาหะนำโรคภายในสำนักงานสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ให้ความสำคัญกับสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อมภายในสำนักงาน โดยเฉพาะการควบคุมและป้องกันสัตว์พาหะนำโรคที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของบุคลากรและผู้ใช้บริการ เช่น หนู แมลงสาบ นกพิราบ และสัตว์อื่น ๆ ที่เป็นพาหะของโรคต่าง ๆ ซึ่งอาจแพร่เชื้อหรือสร้างความเสียหายต่ออาคารสถานที่และเอกสารได้สำนักฯ จึงได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ ดังนี้
|
![]() |
5.5 การเตรียมพร้อมต่อสภาวะฉุกเฉิน | ||
5.5.1 การอบรมฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟตามแผนที่กำหนด (1) มีการกำหนดแผนการฝึกอบรมและอพยพหนีไฟ (2) จำนวนบุคลากรเข้าอบรมฝึกซ้อมดับเพลิงขั้นต้น จะต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของบุคลากรแต่ละแผนกหรือส่วนงาน (3) บุคลากรทุกคนจะต้องเข้าฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง (พิจารณาบุคลากรหรือผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่อยู่ประจำพื้นที่สำนักงานที่มีการฝึกซ้อมเท่านั้น) (4) มีการอบรมดับเพลิงขั้นต้นตามแผนที่กำหนด พร้อมแสดงหลักฐาน ได้แก่ รายงานสรุปการอบรม ภาพถ่ายวิทยากรขณะอบรม ใบรับรองการอบรม (ถ้ามี) (5) มีการฝึกซ้อมอพยพตามแผนที่กำหนด พร้อมแสดงหลักฐาน ได้แก่ ภาพถ่ายการอบรม ภาพถ่ายขณะซ้อมอพยพ (6) มีการกำหนดจุดรวมพลที่สามารถรองรับได้ พร้อมมีป้ายแสดงอย่างชัดเจน (7) มีการกำหนดเส้นทางหนีไฟ ธงนำทางหนีไฟ ไปยังจุดรวมพล พร้อมสื่อสารในพื้นที่ปฏิบัติงาน (8) มีการกำหนดทางออกฉุกเฉิน ทางหนีไฟ พร้อมมีป้ายแสดงอย่างชัดเจน |
การอบรมฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟตามแผนที่กำหนดการเตรียมความพร้อมรับมือเหตุเพลิงไหม้ภายในสำนักงาน ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยในองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีบุคลากรและผู้ใช้บริการจำนวนมาก เช่น สถานศึกษา หน่วยงานบริการ หรือสำนักงานของรัฐ การมีแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน และการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดความสูญเสียทั้งต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนทั่วไป สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ได้ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดให้มีแผนการฝึกอบรมและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟอย่างเป็นระบบ โดยกำหนดให้บุคลากรทุกคนต้องมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้นซึ่งจะต้องมีบุคลากรเข้าอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของจำนวนบุคลากรในแต่ละส่วนงาน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินเบื้องต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บุคลากรประจำสำนักงานทุกคนจะต้องเข้าร่วมการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยการฝึกซ้อมจะต้องดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน มีการจัดทำรายงานผลการอบรม ภาพถ่ายประกอบกิจกรรม และเอกสารรับรองการเข้าร่วมอบรมหากมี เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดตามและประเมินผล ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ได้มีการจัดเตรียมจุดรวมพลที่สามารถรองรับจำนวนบุคลากรได้เพียงพอ พร้อมป้ายแสดงตำแหน่งอย่างชัดเจน รวมถึงกำหนดเส้นทางหนีไฟ ธงนำทาง จุดทางออกฉุกเฉิน และป้ายแสดงเส้นทางหลบหนีในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้บุคลากรสามารถอพยพออกจากอาคารได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงานในการสร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน และเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและยั่งยืนในองค์กร |
![]() |
5.5.2 มีแผนฉุกเฉินที่เป็นปัจจุบันและเหมาะสม และร้อยละของบุคลากรที่เข้าใจแผนฉุกเฉิน (สุ่มสอบถามอย่างน้อย 4 คน) (1) มีการจัดทำแผนฉุกเฉินที่เป็นปัจจุบันและเหมาะสม (2) บุคลากรเข้าใจแผนฉุกเฉินและอธิบายรายละเอียดได้ |
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มีแผนฉุกเฉินที่เป็นปัจจุบันและเหมาะสม และร้อยละของบุคลากรที่เข้าใจแผนฉุกเฉิน ซึ่งมีการสุ่มสอบถามบุคลากรในการบอกเล่าวิธีการและความรู้ความเข้าใจในการใช้แผนฉุกเฉินหากมีสถานการณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย สภาวะฉุกเฉิน |
![]() |
5.5.3 ความเพียงพอและการพร้อมใช้งานของอุปกรณ์ระบบดับเพลิงและป้องกันอัคคีภัย และระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ และร้อยละของบุคลากรทราบวิธีการใช้และตรวจสอบอุปกรณ์ดังกล่าว (สุ่มสอบถามอย่างน้อย ๔ คน) (1) มีการติดตั้งและเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิง - ถังดับเพลิงมีเพียงพอต่อการใช้งาน (กำหนดระยะห่าง อย่างน้อย ๒๐ เมตร/ถัง ตามกฎหมาย ติดตั้งสูงจากพื้นไม่เกิน ๑๕๐ เซนติเมตรนับจากคันบีบ และถ้าเป็นวางกับพื้นจะต้องมีฐานรองรับ) พร้อมกับติดป้ายแสดง - ติดตั้งระบบเครื่องสูบน้ำดับเพลิง (ถ้ามี) - สายฉีดน้ำดับเพลิงและตู้เก็บสายฉีด (Hose and Hose Station) (ถ้ามี) (2) ติดตั้งระบบสัญญาณแจ้งเตือนและต้องพร้อมใช้งาน - สัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (พื้นที่มากกว่า 300 ตารางเมตรหรืออาคารสูงเกิน 2 ชั้นขึ้นไป) - ติดตั้งตัวดักจับควัน(smoke detector) หรือตัวตรวจจับความร้อน (heat detector) (3) มีการตรวจสอบข้อ (1) - (2) และหากพบว่าชำรุดจะต้องดำเนินการแจ้งซ่อมและแก้ไข (4) จัดทำแผนผังแสดงตำแหน่งของอุปกรณ์ดับเพลิงและป้องกันอัคคีภัย และสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (5) บุคลากรจะต้องเข้าใจถึงวิธีการใช้และตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิงและสัญญาณแจ้งเตือน อย่างน้อยร้อยละ 75 จากที่สุ่มสอบถาม (6) ไม่มีสิ่งกีดขวางอุปกรณ์ดับเพลิง และสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ |
ติดตั้งถังดับเพลิงทุกชั้น ในอาคารบรรณราชนครินทร์, อาคารวิทยบริการ และอาคารศูนย์ภาษาและคอมพิวเตอร์ |
![]() |