โครงการดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๒ กรกฎาคม – ๒ สิงหาคม ๒๕๖๘ ได้กลายเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และสร้างสรรค์มิตรภาพที่ไร้พรมแดน โดยได้รับเกียรติจากคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายคณะของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา มาเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้และดูแลการจัดกิจกรรมอย่างใกล้ชิด ทำให้นักศึกษาจากทั้งสองสถาบันได้ร่วมกันถักทอสายใยแห่งความเข้าใจผ่านกิจกรรมเชิงปฏิบัติการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลงมือปรุงอาหารไทยรสเลิศ, การทำยาหม่องสมุนไพร, การนวดแผนไทย, และการเรียนรู้ฟิสิกส์ในชีวิตประจำวันจากคณาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวอย่างมวยไทยจากคณาจารย์คณะครุศาสตร์ การเรียนรู้เทคโนโลยีการถนอมอาหารอย่างการทำผลไม้ฟรีซดรายจากคณาจารย์คณะเทคโนโลยีการเกษตร การสร้างสรรค์ผลงานผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ, การเรียนรำไทย, และสัมผัสความไพเราะของดนตรีพื้นบ้านภาคใต้จากคณาจารย์คณะศิลปกรรมศาสตร์ การเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวันจากคณาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ไปจนถึงการสำรวจเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างการทำพวงกุญแจ 3D Printing จากคณาจารย์คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ซึ่งทุกกิจกรรมได้สร้างเสียงหัวเราะและประสบการณ์การเรียนรู้ร่วมกันอย่างแท้จริง

นอกจากการเรียนรู้ในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว นักศึกษาจาก NPTU ยังได้เปิดโลกทัศน์ผ่านการทัศนศึกษาในสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมของจังหวัดสงขลา ทั้งการนั่งรถรางชมสถาปัตยกรรมอันงดงามของย่านเมืองเก่า, การเรียนรู้วิถีชีวิตบนเกาะยอ ณ สถาบันทักษิณคดีศึกษา และการสัมผัสความศรัทธา ณ วัดฉื่อฉาง อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งในทุกการเดินทางมี "เพื่อนคู่คิด" (SKRU Buddies) นักศึกษาจิตอาสาจากหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาจีนและศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คอยดูแลและแลกเปลี่ยนมุมมองทางวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด ทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง

ในช่วงท้ายของโครงการ ได้มีการจัดกิจกรรมนำเสนอผลงานกลุ่ม ซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาจาก NPTU ได้สรุปและแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้ตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วม สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของโครงการในการบรรลุวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้เป็นเพียงการถ่ายทอดความรู้ แต่คือการสร้าง "ความเข้าใจ" และ "มิตรภาพ" ที่จะคงอยู่ต่อไปในอนาคต

โครงการค่ายภาษาและวัฒนธรรมในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาและ National Pingtung University ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่ยังได้จุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนของทั้งสองชาติ ในการก้าวสู่การเป็นพลเมืองโลกที่พร้อมจะเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน