รายละเอียด: |
การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา แบบภาคตัดขวาง วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการใช้โปรแกรม JHCIS ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 172 คน สุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ที่สร้างขึ้นเอง ผ่านการตรวจสอบความตรงโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน หาค่าดัชนีความสอดคล้อง และหาความเที่ยงโดยค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่าของครอนบาซ ได้ระดับความเชื่อมั่นแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน การสนับสนุนจากองค์การ การรับรู้สมรรถนะแห่งตน และการใช้โปรแกรม JHCIS เท่ากับ .957, .927, .845 และ .968 ตามลำดับ นำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยใช้ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และสถิติถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการศึกษา พบว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานด้านการดูแลโปรแกรม JHCIS ของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ร้อยละ 79.10 มีประสบการณ์ระบบฐานข้อมูล 1–5 ปี ร้อยละ 79.10 แรงจูงใจในการปฏิบัติงานอยู่ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.73 การสนับสนุนจากองค์การอยู่ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.60 การรับรู้สมรรถนะแห่งตนอยู่ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.58 การใช้โปรแกรม JHCIS อยู่ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.00 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ที่มีต่อการใช้โปรแกรม JHCIS ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ .01 ได้แก่ ประสบการณ์ระบบฐานข้อมูล แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน การสนับสนุนจากองค์การ การรับรู้สมรรถนะแห่งตน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ .250, .552, .556 และ .339 ตามลำดับ และตัวแปรพยากรณ์ที่สามารถร่วมกันพยากรณ์การใช้โปรแกรม JHCIS ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างนัยสำคัญทางสถิติ .01 ได้แก่ การสนับสนุนจากองค์การ ประสบการณ์ระบบฐานข้อมูล และแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ซึ่งสามารถร่วมกันพยากรณ์ได้ร้อยละ 36.90 มีสมการพยากรณ์ดังนี้
Z = (.321) (การสนับสนุนจากองค์การ) + (.185) (ประสบการณ์ระบบฐานข้อมูล) + (.282) (แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน)
|