รายละเอียด: |
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาการใช้ส่วนประสมทางการตลาดของผู้ ประกอบการธุรกิจอพาร์ทเมนท์ (2) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลพฤติกรรมในการตัดสินใจเช่าอพาร์ทเมนท์และปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเช่าอพาร์ทเมนท์ (3) เพื่อเปรียบเทียบระดับความสำคัญของปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเช่าอพาร์ทเมนท์โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้ประกอบการอพาร์ทเมนท์ จำนวน 7 คนและผู้เช่าอพาร์ทเมนท์จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวมรวมข้อมูล ได้แก่ การสัมภาษณ์เชิงลึกและแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย และ
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐานคือ t-test และ F-test
ผลการศึกษาพบว่า
1. ส่วนประสมทางการตลาดที่ผู้ประกอบการให้ความสำคัญ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านกายภาพ ผู้ประกอบการธุรกิจให้ความสำคัญ เรื่องการท่องเที่ยวที่เป็นปัจจัยหลักในการนำรายได้เข้าสู่จังหวัดภูเก็ต รองลงมา ด้านผลิตภัณฑ์ (ห้องเช่า) และด้านราคา ตามลำดับ
2. ผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 31-40 ปี มีสถานภาพโสด ระดับการศึกษาปริญญาตรี อาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ มีภูมิลำเนาเดิมเป็นคนจากจังหวัดอื่น พฤติกรรมการเช่าอพาร์ทเมนท์ พบว่า ผู้เช่าส่วนใหญ่ เช่าอพาร์ทเมนท์ 1-3 ปี ขนาดห้องพัก 16-20 ตารางเมตร ตัดสินใจเช่าโดยตนเอง โดยส่วนมากเช่าห้องในราคา 4,500 บาท ต่อเดือน ทราบข้อมูลห้องเช่าจากป้ายโฆษณา เหตุผลการเช่าคืออยู่ใกล้ที่ทำงาน และส่วนมากพักอาศัยอยู่กับเพื่อน ส่วนระดับความสำคัญของส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเช่าอพาร์ทเมนท์ พบว่า ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ด้านผลิตภัณฑ์ มีความสำคัญต่อการตัดสินใจเช่าอพาร์ทเมนท์มากที่สุด รองลงมา ได้แก่ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านสถานที่ ปัจจัยด้านบุคลากร ส่วนปัจจัยด้านกายภาพ มีความสำคัญน้อยที่สุด ตามลำดับ
3. ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดมีผลต่อการตัดสินใจเช่าอพาร์ทเมนท์แตกต่างกันเมื่อปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ และภูมิลำเนา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
|