งานวิจัย

ณิชาภัทร บุญรัตน์

มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

2558

ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อประเทศไทยมาก เป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก และยังเป็นอาหารหลักของคนไทย การเกษตรส่วนใหญ่ของประเทศไทยปลูกข้าวซึ่งในปัจจุบัน เกษตรกรไทยสามารถทำนาข้าวได้ถึง 5 ครั้งในรอบ 2 ปี งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาเปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนที่ได้รับจากการทำนาข้าวที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลใช้ทั้งเทคนิควิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณในศาสตร์แขนงการบัญชี เลือกข้าวพันธ์เฉี้ยงพัทลุง ไวต่อช่วงแสง คงทนในต่างพื้นที่ ควรได้รับการส่งเสริมให้ปลูกข้าวเพิ่มขึ้นในประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างเป็นเกษตรกรชาวนาปลูกพันธ์ข้าวเฉี้ยงพัทลุง อำเภอกระแสสินทร์ จังหวัดสงขลา ซึ่งใช้ปุ๋ยอินทรีย์เป็นจำนวน 10 ราย และใช้ปุ๋ยเคมีมีจำนวน 85 ราย นอกจากนี้ยังพบเกษตรกรชาวนา ที่ใช้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และเคมี อีกจำนวน 13 ราย ฤดูกาลปลูก คือ เดือนสิงหาคม 2557 ถึงเดือนมกราคม 2558 ระยะเวลาการเก็บข้อมูลของงานวิจัยใช้เวลา 1 เดือน หลังจากนั้น นำข้อมูลทางการบริหารต้นทุนการเงินที่ได้มาวิเคราะห์เปรียบเทียบแล้วแปลผล ผลการวิจัยพบว่า เกษตรกรชาวนาที่ใช้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และเคมีได้มีต้นทุนต่ำกว่าแต่ได้ผลตอบแทนสูงกว่าเกษตรกรชาวนาทีใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และเกษตรกรชาวนาที่ใช้ปุ๋ยเคมี ในขณะที่เกษตรกรชาวนาที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ มีต้นทุนต่ำกว่าแต่ได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเกษตรกรชาวนาที่ใช้ปุ๋ยเคมี

(คลิกที่ชื่อเอกสารเพื่ออ่าน)