วิทยานิพนธ์

ปริวัฒน์ เจริญฤทธิ์

สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

2563

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารกับสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง 2) เพื่อศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารที่ส่งผลต่อสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะในการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงและสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2563 จำนวน 297 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถามแบ่งเป็น 4 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร ตอนที่ 3 สภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนเอกชน ตอนที่ 4 ข้อเสนอแนะในการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงและสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยพหุคูณ และวิเคราะห์ข้อเสนอแนะในการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงและสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารมีความสัมพันธ์ทางบวกกับสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง โดยมีความสัมพันธ์กันระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารส่งผลต่อสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง โดยภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล (X4) ด้านการสร้างแรงบันดาลใจ (X2) และด้านการกระตุ้นทางปัญญา (X3) สามารถร่วมกันทำนายสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง ได้ร้อยละ 62.00 (R2=.62) เขียนสมการในรูปคะแนนดิบ และคะแนนมาตรฐาน ดังนี้ สมการคะแนนดิบ Y = 1.52 + .32(X4)+ .20(X2) + .15(X3) สมการคะแนนมาตรฐาน Z = .42(X4) + .25(X2) + .21(X3) 3. ข้อเสนอแนะในการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง ได้แก่ ผู้บริหารจะต้องมีความเข้มแข็ง และทันต่อยุคสมัย สามารถนำพาบุคลากรไปสู่เป้าหมายและทิศทางที่โรงเรียนกำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยอมรับฟังทุกความคิดเห็นของผู้อื่น เพื่อนำไปพิจารณาแก้ไข ปรับปรุงตนเองและองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ใช้หลักของความมีเหตุผลในการรับฟังปัญหาของบุคลากรจากตัวบุคคลมากกว่าการรับฟังจากผู้อื่น มีความเป็นธรรมโดยปราศจากอคติ ตระหนักต่อหน้าที่ มีคุณธรรม จริยธรรม เป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้ร่วมงาน เป็นต้น และข้อเสนอแนะในการพัฒนาสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง ได้แก่ ผู้บริหารจะต้องมีการวางแผนและร่วมมือกับบุคลากรในการปฏิบัติงานบนเป้าหมายเดียวกันที่ชัดเจน พร้อมทั้งส่งต่อวิธีคิดที่ถูกต้องผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น

(คลิกที่ชื่อเอกสารเพื่ออ่าน) 

ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง