วิทยานิพนธ์

รอซีกีน สาเร๊ะ

สาขาวิชาสาธารณสุขชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

2563

ปัญหาสุขภาพช่องปากสามารถพบได้ในประชากรทุกกลุ่มอายุ โดยกลุ่มวัยรุ่นตอนต้นเป็นกลุ่มหนึ่งที่มีความเสี่ยงสูงในด้านปัญหาสุขภาพช่องปาก และความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากก็เป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญ ไม่เพียงแต่สุขภาพช่องปากแต่ยังส่งผลต่อสุขภาพอื่น ๆ อีกด้วย การศึกษา วิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรอบรู้ด้านทันตสุขภาพ อิทธิพลจากครอบครัวและกลุ่มเพื่อน พฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของวัยรุ่นตอนต้น จังหวัดยะลา และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านทันตสุขภาพ และอิทธิพลจากครอบครัวและกลุ่มเพื่อน กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของวัยรุ่นตอนต้น จังหวัดยะลา กลุ่มตัวอย่างจำนวน 140 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ไคสแควร์ และสถิติค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบสเปียร์แมน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีระดับความรอบรู้ด้านทันตสุขภาพในการดูแลสุขภาพช่องปากของวัยรุ่นตอนต้นในจังหวัดยะลา โดยภาพรวมอยู่ในระดับพอใช้ แปลผลว่า เป็นผู้มีระดับความรอบรู้ด้านทันตสุขภาพที่เพียงพอ และอาจมีการดูแลสุขภาพช่องปากตนเองได้ถูกต้องบ้าง คิดเป็นร้อยละ 66.43 และได้รับอิทธิพลจากครอบครัวและกลุ่มเพื่อนในการดูแลสุขภาพช่องปากในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 70.71 จากการทดสอบความสัมพันธ์พบว่า อิทธิพลจากครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ความรอบรู้ด้านทันตสุขภาพมีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของวัยรุ่นตอนต้นในจังหวัดยะลาในระดับปานกลางอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (rs = 0.412 และ 0.541 ตามลำดับ p-value <0.001) จากผลการวิจัยครั้งนี้จึงควรมีการส่งเสริมความรอบรู้ด้านทันตสุขภาพในวัยรุ่นตอนต้นโดยด่วน รวมถึงส่งเสริมให้มีการกำกับติดตามพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากแบบเสริมพลังเพื่อสร้างแรงจูงใจ ให้มีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีอย่างต่อเนื่อง

(คลิกที่ชื่อเอกสารเพื่ออ่าน) 

ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านทันตสุขภาพ อิทธิพลจากครอบครัว และกลุ่มเพื่อน กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก ของวัยรุ่นตอนต้นในจังหวัดยะลา