วิทยานิพนธ์

วารุณี มะรุมดี

สาขาวิชาสาธารณสุขชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

2563

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา แบบตัดขวาง (Cross-sectional Descriptive Study) มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเข้ารับบริการด้านการแพทย์แผนไทย และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่นำไปสู่การตัดสินใจกับการตัดสินใจเข้ารับบริการการแพทย์แผนไทย ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนที่เข้ารับบริการการแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 11 แห่ง เขตอำเภอเมือง จังหวัดยะลา ระหว่างเดือนเมษายน - เดือนพฤษภาคม 2564 จำนวน 138 ราย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป นำเสนอโดยใช้สถิติพรรณนา ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความแปรปรวน t-test, f-test และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ด้วยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน กำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่เข้ารับบริการการแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 11 แห่ง มากกว่าร้อยละ 90 มีการรับรู้ประโยชน์ของการรักษา ป้องกันโรค และรับรู้ถึงคุณภาพของการให้บริการด้านแพทย์แผนไทย ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีมาก ปัจจัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกัน มีการตัดสินใจเข้ารับบริการการแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไม่แตกต่างกัน การทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร พบว่า ปัจจัยที่นำไปสู่การตัดสินใจด้านการรับรู้คุณภาพ และด้านการเข้าถึงบริการการแพทย์แผนไทยมีความสัมพันธ์ทางบวก มีทิศทางความสัมพันธ์ไปในทางเดียวกัน กับการตัดสินใจรับบริการการแพทย์แผนไทย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ 0.173 และ 0.522 สำหรับการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่นำไปสู่การตัดสินใจด้านการรับรู้ประโยชน์และการป้องกันโรค ไม่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจเข้ารับบริการการแพทย์แผนไทย ซึ่งมีทิศทางความสัมพันธ์ตรงข้ามกัน โดยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ -0.098

(คลิกที่ชื่อเอกสารเพื่ออ่าน) 

ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเข้ารับบริการ การแพทย์แผนไทย ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล: กรณีศึกษาอำเภอเมือง จังหวัดยะลา