รายละเอียด: |
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนและหลัง การจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการอ่านแบบ พี คิว โฟร์ อาร์ ร่วมกับสื่อดิจิทัล 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการอ่านแบบ พี คิว โฟร์ อาร์ ร่วมกับสื่อดิจิทัล กับเกณฑ์ร้อยละ 70 3) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจหลังการจัดการเรียนรู้กับเกณฑ์ร้อยละ 70 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดคลองเรียน) จำนวนนักเรียน 30 คน ได้มาด้วยวิธีสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการอ่านแบบ พี คิว โฟร์ อาร์ ร่วมกับ สื่อดิจิทัล 2) สื่อดิจิทัล 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบทดสอบวัดความสามารถ ในการอ่านเพื่อความเข้าใจ และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการอ่านแบบ พี คิว โฟร์ อาร์ ร่วมกับสื่อดิจิทัล สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการอ่านแบบ พี คิว โฟร์ อาร์ ร่วมกับ สื่อดิจิทัล สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ความสามารถในการอ่าน เพื่อความเข้าใจหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการอ่านแบบ พี คิว โฟร์ อาร์ ร่วมกับสื่อดิจิทัล สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 4) ผลการศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการอ่านแบบ พี คิว โฟร์ อาร์ ร่วมกับสื่อดิจิทัล อยู่ในระดับมากที่สุด
คำสำคัญ: วิธีการอ่านแบบ พี คิว โฟร์ อาร์, สื่อดิจิทัล, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, การอ่านเพื่อความเข้าใจ
|