การประยุกต์ใช้งานด้านเสียงของยางธรรมชาติ:แผ่นดูดซับเสียง

ประเภท: 

งานวิจัย

ผู้แต่ง: 

สุเพ็ญรัตน์ สุวรรณรักษา และ อาฮามัด ดอเลาะ

สำนักพิมพ์: 

มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

ปีที่พิมพ์: 

2546

เลขหมู่: 

ว.668.9 ส46ก

รายละเอียด: 

ในการศึกษาครั้งนี้ ทําการศึกษาการนํายางธรรมชาติมาผลิตเป็นแผ่นดูดซับเสียง โดยทําการศึกษาอิทธิพลของสารลดแรงตึงผิว ขนาดรูพรุน ความพรุน ชนิดของสารตัวเต็ม และรูปแบบของแผ่นดูดซับเสียง จากการทดลองพบว่า ในการทดลองความดังของเสียงที่ความดังต่างๆนั้น ปริมาณสารลดแรงตึงผิวที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 1.5 phr. จะทําให้เปอร์เซ็นต์การดูดซับเสียงลดลง ซึ่งสอดคล้องกับขนาดรูพรุนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อปริมาณของสารลดแรงตึงผิวเพิ่มขึ้น ความพรุนของแผ่นดูดซับเสียงที่เพิ่มขึ้นจะทําให้เปอร์เซ็นต์การดูดซับเสียงเพิ่มมากขึ้น โดยความพรุนจะลดลงกับปริมาณของสารลดแรงตึงผิวที่เพิ่มขึ้น ความหนาของแผ่นดูดซับเสียงที่เพิ่มขึ้นจะทําให้การดูดซับเสียงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในการใช้สารตัวเติมในแผ่นดูดซับเสียงพบว่า ซิลิกา จะสามารถทําให้แผ่นดูดซับเสียงดูดซับเสียงได้ดีที่สุด โดยรองลงมาจะเป็นเขม่าดํา และแคลเซียมคาร์บอเนต ตามลําดับสําหรับรูปแบบของแผ่นดูดซับเสียงนั้นพบว่า แบบ C ซึ่งเป็นแบบที่มีพื้นที่ผิวสัมผัสมากที่สุดจะให้การดูดซับเสียงดีที่สุด สําหรับในการดูดซับเสียงที่ความถี่ต่างๆนั้นพบว่า ที่ความถี่ต่ำ กลาง และสูง ปริมาณสารลดแรงตึงผิว .5 phr. สามารถดูดซับเสียงได้ดีที่สุด ความหนาของแผ่นดูดซับเสียงที่เพิ่มขึ้นจะทําให้ ดูดซับเสียงได้เพิ่มขึ้นทั้งที่ความถี่ต่ำ กลาง และสูง ใน การใช้สารตัวเติมที่ความถี่ต่ำและสูง ซิลิกา สามารถดูดซับเสียงได้ดี แต่ที่ความถี่กลาง เขม่าดํา สามารถดูดซับเสียงได้ดี ส่วนรูปแบบแผ่นดูดซับเสียงรูปแบบ C สามารถดูดซับเสียงได้ดีที่สุดทั้งความถี่ต่ำ กลาง และสูง ดังนั้น จากการศึกษาครั้งนี้ สรุปได้ว่ายางธรรมชาติสามารถทําเป็นแผ่น ดูดซับเสียงได้ โดยเฉพาะที่ความถี่สูง แผ่นดูดซับเสียงจากยางธรรมชาติสามารถดูดซับเสียงได้ดี การใช้ซิลิกาเป็นสารตัวเดิม การเพิ่มความหนาและพื้นที่ผิวสัมผัสของแผ่นดูดซับเสียง สามารถเพิ่มความสามารถในการดูดซับเสียงได้

ไฟล์เอกสาร: 

(คลิกที่ชื่อเอกสารเพื่ออ่าน) 

หน้าปก

บทคัดย่อ

สารบัญ

บทที่ 1 บทนำ

บทที่ 2 ทฤษฎี

บทที่ 3 วิธีการวิจัย

บทที่ 4 ผลและวิจารณ์ผลการทดลอง

บทที่ 5 สรุปผลการทดลอง

บรรณานุกรม

ภาคผนวก