ประเภท: |
โครงงานนักศึกษา |
|
ผู้แต่ง: |
สีลัน อัศนี, เอกชัย อินทวิเชียร |
|
สำนักพิมพ์: |
มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา |
|
ปีที่พิมพ์: |
2546 |
|
เลขหมู่: |
ว.581.0724 ส37ก |
|
รายละเอียด: |
การเจริญเติบโตของคาร์เนชั่นพันธุ์Pot Hybrid Mix พันธุ์ Dwarf Fragrance และพันธุ์ Yellow Sim ที่เลี้ยงในสภาพปลอดเชื้อ โดยนําตายอดตาข้างของคาร์เนชั่นแต่ละพันธุ์มาเลี้ยงใน อาหารสูตร MS ที่มี BA 1.0 มิลลิกรัมต่อลิตร ชักนํารากในอาหารสูตร MS ที่มี 1AA 0.1 มิลลิกรัมต่อลิตร ที่อุณหภูมิ 25 - 27 องศาเซลเซียส ได้รับแสง 1,500-2,000 ลักซ์ นาน 12 ชั่วโมง ต่อวัน เป็นเวลา 60 วัน เปลี่ยนอาหารทุก 15 วัน ผลปรากฏว่า คาร์เนชั่นพันธุ์ Dwarf Fragrance มีจํานวนต้นเฉลี่ยเท่ากับ 23.55 ต้นต่อขวด มีจํานวนใบเฉลี่ยเท่ากับ 122.81 ใบต่อต้น มีความ กว้างของใบเฉลี่ยเท่ากับ 0.58 เซนติเมตร มีความสูงของต้นเฉลี่ยเท่ากับ 4.06 เซนติเมตร มี จํานวนรากเฉลี่ยเท่ากับ 5.25 รากต่อต้น และมีความยาวรากเฉลี่ยเท่ากับ 2.20 เซนติเมตร รอง ลงมาคือพันธุ์ Pot Hybrid Mix มีจํานวนต้นเฉลี่ยเท่ากับ 16.68 ต้นต่อขวด มีจํานวนใบเฉลี่ยเท่า กับ 114.99 ใบต่อต้น มีความกว้างของใบเฉลี่ยเท่ากับ 0.56 เซนติเมตร มีความสูงของต้นเฉลี่ยเท่า กับ 4.21 เซนติเมตร มีจํานวนรากเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 รากต่อต้น และมีความยาวรากเฉลี่ยเท่ากับ 1.10 เซนติเมตร อันดับสามคือ พันธุ์ Yellow Sim มีจํานวนต้นเฉลี่ยเท่ากับ 11.84 ต้นต่อขวด มี จํานวนใบเฉลี่ยเท่ากับ 71.07 ใบต่อต้น มีความกว้างของใบเฉลี่ยเท่ากับ 0.61 เซนติเมตร มีความ สูงของต้นเฉลี่ยเท่ากับ 3.62 เซนติเมตร มีจํานวนรากเฉลี่ยเท่ากับ 3.86 รากต่อต้น และมีความ ยาวรากเฉลี่ยเท่ากับ 2.02 เซนติเมตร เมื่อนําข้อมูลไปวิเคราะห์ทางสถิติพบว่า จํานวนต้นพันธุ์ Pot Hybrid Mix ไม่แตกต่างกับพันธุ์ Dwarf Fragrance และไม่แตกต่างกับ พันธุ์ Yellow Sim จํานวนใบพันธุ์ Pot Hybrid Mix และพันธุ์ Dwarf Fragrance ไม่แตกต่างกันแต่แตกต่างกับ พันธุ์ Yellow Sim ที่ระดับความเป็นไปได้ 0.05 สําหรับการย้ายปลูกคาร์เนชั่นในวัสดุปลูกที่มีส่วน ผสมของทราย : ดิน อัตราส่วน 1:1 เป็นเวลา 30 วัน พบว่ามีเปอร์เซ็นต์การรอดชีวิตเฉลี่ย 50 เปอร์เซ็นต์ |
|
ไฟล์เอกสาร: (คลิกที่ชื่อเอกสารเพื่ออ่าน) |
บทที่2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง |
|