ภาวะผู้นำใฝ่บริการที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสงขลา (Servant Leadership That Affectional Administration Performance , The Office of Education Service in Songkhla Province)

ประเภท: 

งานวิจัย

ผู้แต่ง: 

กนกกร ศิริสุข

สำนักพิมพ์: 

มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

ปีที่พิมพ์: 

2557

เลขหมู่: 

ว.371.201 ก15ภ

รายละเอียด: 

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำใฝ่บริการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสงขลา 2) เพื่อศึกษาปัจจัยภาวะผู้นำใฝ่บริการที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสงขลา 3) เพื่อสร้างสมการทำนายภาวะผู้นำใฝ่บริการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสงขลา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสงขลา จำนวน 214 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยแบบสอบถามเป็นแบบสำรวจรายการ (Check list) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression) ด้วยวิธีการแบบขั้นตอน (Enter Method) ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับภาวะผู้นำใฝ่บริการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสงขลาอยู่ในระดับมากทั้งรายด้านและโดยรวม 2) ภาวะผู้นำใฝ่บริการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสงขลามากที่สุด คือ ตัวแปรการตระหนักรู้ มีค่าสัมประสิทธิ์การทำนาย เท่ากับ .532 (B=.395, Beta=.532) รองลงมา คือ ตัวแปรสร้างชุมชน มีค่าสัมประสิทธิ์การทำนาย เท่ากับ -.306 (B=.-.285, Beta=-.306) ตัวแปรการโน้มน้าวใจ มีค่าสัมประสิทธิ์ เท่ากับ .298 (B=.277, Beta=.175) ตัวแปรการพิทักษ์รักษามีค่า มีค่าสัมประสิทธิ์ เท่ากับ .174 (B=.224, Beta=.174) และตัวแปรการมุ่งมั่นพัฒนาคน มีค่าสัมประสิทธิ์ เท่ากับ -.128 (B=-.139, Beta=-.128) ตามลำดับ

ไฟล์เอกสาร: 

(คลิกที่ชื่อเอกสารเพื่ออ่าน) 

ภาวะผู้นำใฝ่บริการที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสงขลา