รูปแบบการปลูกที่แตกต่างกันต่อคุณภาพของกาแฟโรบัสตา ในอําเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา (Different Planting Patterns on the Quality of Robusta Coffee in Khlong Hoi Khong District, Songkhla Province)
|
ประเภท: |
งานวิจัย |
ผู้แต่ง: |
คริษฐ์สพล หนูพรหม, กมลทิพย์ นิคมรัตน์ |
สำนักพิมพ์: |
มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา |
ปีที่พิมพ์: |
2568 |
เลขหมู่: |
|
รายละเอียด: |
การศึกษาคุณภาพของเมล็ดกาแฟทั้งเพื่อการบริโภคและการขยายพันธุ์ได้ดําเนินการโดย
เปรียบเทียบกาแฟที่ปลูกในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การปลูกแซมในสวนมะพร้าวน้ําหอม สวนทุเรียน
สวนยางพารา และการปลูกแบบเชิงเดี่ยว ผลการศึกษาคุณภาพของเมล็ดกาแฟเพื่อการบริโภคแสดง
ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านคุณภาพทางชีวเคมีและประสาทสัมผัสของเมล็ดกาแฟ โดยกาแฟที่ปลูก
แซมในสวนมะพร้าวน้ําหอมมีความสามารถในการต้านสารอนุมูลอิสระ (122.71 ไมโครโมลเทียบเท่า
ทรอล็อกซ์ต่อกรัม) และปริมาณคาเฟอีน (21.54 มิลลิกรัมต่อกรัมตัวอย่าง) สูงสุด ขณะที่กาแฟที่ปลูก
แซมในสวนยางพารามีปริมาณกรดคลอโรเจนิกสูงสุด (3.07 มิลลิกรัมต่อกรัมตัวอย่าง) การทดสอบ
ทางประสาทสัมผัส พบว่าไม่มีความแตกต่างในความชอบโดยรวม แต่กาแฟจากสวนยางพารามีกลิ่น
กาแฟที่ได้รับคะแนนความชอบสูงสุด (6.00) สําหรับคุณภาพของเมล็ดกาแฟที่ใช้เพื่อการขยายพันธุ์
พบว่ากาแฟที่ปลูกแซมในสวนทุเรียนมีความงอกและน้ําหนักแห้งของเมล็ดสูงที่สุด (90.50 เปอร์เซ็นต์
และ195.68 มิลลิกรัมต่อเมล็ด ตามลําดับ) ขณะที่กาแฟจากการปลูกแบบเชิงเดี่ยวมีคุณภาพต่ําสุดทั้ง
ในด้านขนาดและความชื้นของเมล็ด ส่วนด้านการเติบโตของต้นกล้า พบว่าเมล็ดกาแฟจากสวน
ยางพารามีความยาวยอดและน้ําหนักแห้งของต้นกล้าสูงสุด
จากการศึกษาครั้งนี้ พบว่าการปลูกกาแฟในรูปแบบแซมในสวนต่าง ๆ มีผลต่อคุณภาพทั้งใน
ด้านการบริโภคและการขยายพันธุ์ โดยแต่ละรูปแบบมีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถนําไปใช้
ในการพัฒนาการผลิตกาแฟเพื่อให้ได้เมล็ดที่มีคุณภาพสูงในด้านต่าง ๆ ต่อไป
คําสําคัญ: กาแฟโรบัสตา คุณภาพเมล็ดพันธุ์ การปลูกพืชแซม |
เอกสาร / ลิงก์:
(คลิกที่ชื่อรายการเพื่อเปิด)
|
รูปแบบการปลูกที่แตกต่างกันต่อคุณภาพของกาแฟโรบัสตา ในอําเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา
|