ทุนทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์โดยมีความร่วมมือเชิงนโยบายเป็นตัวแปรกลาง : กรณีศึกษา เทศบาลนครหาดใหญ่ (CULTURAL CAPITAL THAT AFFECT THE CREATIVE ECONOMY DEVELOPMENT BY COLLABORATIVE POLICY AS MEDIATOR VARIABLE : A CASE STUDY OF HAT YAI

Book Cover

ประเภท: 

งานวิจัย

ผู้แต่ง: 

วิศรุตา ทองแกมแก้ว, ไชยา เกษารัตน์

สำนักพิมพ์: 

คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

ปีที่พิมพ์: 

2568

เลขหมู่: 

รายละเอียด: 

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาองค์ความรู้ทุนทางวัฒนธรรมของเทศบาลนครหาดใหญ่ 2) เพื่อวิเคราะห์ทุนทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์โดยมีความร่วมมือเชิงนโยบายเป็นตัวแปรกลาง : กรณีศึกษา เทศบาลนครหาดใหญ่ 3) เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการพัฒนาเมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้แก่เทศบาลนครหาดใหญ่ ใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสาน โดยการวิจัยเชิงปริมาณผสมผสานกับการวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือการวิจัย คือแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ กลุ่มตัวอย่างการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 12 คน คือ ผู้บริหารเทศบาลนครหาดใหญ่ จำนวน 1 คน บุคลากรภาครัฐของเทศบาลนครหาดใหญ่ จำนวน 1 คน ภาคส่วนเอกชน จำนวน 3 คน ภาคส่วนประชาชน จำนวน 5 คน และ ภาคส่วนองค์กรการกุศล จำนวน 2 คน กลุ่มตัวอย่างการวิจัยเชิงปริมาณ คือ ประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง โดยเป็นประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง อายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 384 คน การรวบรวมข้อมูลในการวิจัยเชิงปริมาณ วิธีการเก็บข้อมูลโดยแบบสอบถามและวิเคราะห์ผลทางสถิติ ด้วยการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบช่วงชั้น ผสมผสานกับการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยวิธีการเก็บข้อมูลด้วยการใช้แบบสัมภาษณ์ สัมภาษณ์รายบุคคลร่วมกับการสนทนากลุ่ม และ วิเคราะห์ด้วยการตีความเชิงคุณภาพ
ผลการวิจัย พบว่า 1) ความร่วมมือเชิงนโยบายเป็นตัวแปรกลางที่ไม่สมบูรณ์ระหว่างทุนทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้กับการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยทุนทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างมีนัยสาคัญ และมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ มีค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยเชิงพหุคูณลดลง (β3 = 0.138, p < 0.01) และ ความร่วมมือ เชิงนโยบายส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างมีนัยสาคัญ โดยมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน (β2 0.558 =, p < 0.001) ซึ่งทุนทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้และความร่วมมือเชิงนโยบาย มีความสามารถในการอธิบายการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้ร้อยละ 34.4 เพราะประชาชนยังขาดการมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง โดยส่วนใหญ่ดาเนินการผ่านประธานชุมชนเป็นสื่อกลางในการประสานงานโครงการต่าง ๆ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ได้แก่ ผลักดันให้มีตลาด SMEs ผลักดันให้มีการติดตั้งป้ายบอกเล่าประวัติความเป็นมา รวมทั้งป้ายบอกเส้นทางของเมืองหาดใหญ่ ขับเคลื่อนการพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์สถานที่ทางศาสนา และผลักดันให้มีอินฟลูเอนเซอร์ในการเป็นบุคคลที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่น่าสนใจ 2) ความร่วมมือเชิงนโยบายเป็นตัวแปรกลางที่สมบูรณ์ระหว่างทุนทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยทุนทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ไม่ส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างมีนัยสาคัญ ทั้งนี้ มีค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยเชิงพหุคูณลดลง (β3 = 0.045, ns) และ ความร่วมมือเชิงนโยบายส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างมีนัยสาคัญ โดยมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน (β2 = 0.555, p < 0.001) ซึ่งทุนทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้และความร่วมมือเชิงนโยบาย มีความสามารถในการอธิบายการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้ร้อยละ 32.7 เพราะเทศบาลนครหาดใหญ่ใช้ขนบธรรมเนียมและประเพณีทางศาสนาเป็นอัตลักษณ์ในการจัดงานเทศกาลด้วยความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ถ่ายทอดสู่สาธารณะ และสร้างชื่อเสียงให้พื้นที่อย่างยั่งยืน ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ได้แก่ ผลักดันการจัดงานเทศกาลต่าง ๆ ของประเพณีชาวพุทธ ผลักดันการจัดงานย่านพื้นที่หาดใหญ่ไชน่าทาวน์ด้วยการนาเสนอประเพณีวัฒนธรรมของจีนในความเป็นพหุวัฒนธรรมของเมืองหาดใหญ่ ผลักดันให้มีการจัดงานประเพณีสาคัญทางศาสนาอิสลาม การจัดงานเทศกาลต่างๆ ด้วยการเปิดโอกาสให้มีเวทีในการแสดงหนังตะลุง มโนราห์ ว่าว จะทาให้มีความน่าสนใจและนาไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้มากขึ้น และผลักดันการปลูกฝังเยาวชน โดยการนากลุ่มภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าไปในโรงเรียนในลักษณะของการอบรมหรือจัดโครงการพัฒนาเยาวชน เช่น หนังตะลุง มโนราห์ ว่าว
คำสำคัญ : ทุนทางวัฒนธรรม; เศรษฐกิจสร้างสรรค์; ความร่วมมือเชิงนโยบาย; เทศบาลนครหาดใหญ่

เอกสาร / ลิงก์: 

(คลิกที่ชื่อรายการเพื่อเปิด) 

ทุนทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์โดยมีความร่วมมือเชิงนโยบายเป็นตัวแปรกลาง : กรณีศึกษา เทศบาลนครหาดใหญ่