วิทยานิพนธ์

ก่อเดช หลำจะนะ

มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

2555

ว.พ.371.2 ก19ก 2555

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานบุคคลโรงเรียนเอกชนเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุงเขต 2 2) เพื่อเปรียบเทียบการบริหารงานบุคคลโรงเรียนเอกชนเขตพื้นที่การศึกษาพัทลุงเขต 2 จำแนกตามเพศ วุฒิการศึกษา ตำแหน่ง ประสบการณ์ การทำงาน และขนาดของโรงเรียน 3) เพื่อเสนอปัญหาการบริหารงานบุคคลโรงเรียนเอกชน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุงเขต 2 การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ศึกษาจาก กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารและครูผู้สอน จำนวน 173 คน โดยสุ่มจากประชากร คือ ผู้บริหาร และครูผู้สอน 311 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามลักษณะมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 51 ข้อ มีความเชื่อมั่นเท่ากับ .96 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ t-test การทดสอบค่าเอฟ และการทดสอบรายคู่ตามวิธีของเชฟเฟ่
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการบริหารงานบุคคลโรงเรียนเอกชนเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 โดยภาพรวมผู้บริหารและครูผู้สอนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก และรายด้าน พบว่า ด้านการจัดสวัสดิการและกองทุนบุคลากร ผู้บริหารและครูผู้สอนมีความคิดเห็น อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนด้านอื่นๆ อยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ คือ ด้านการวางแผนกำลังคน รองลงมาด้านการสรรหาบุคคล/การคัดเลือกบุคคล ด้านการบรรจุแต่งตั้ง และด้านการประเมินผลการปฏิบัติงานในสัดส่วนที่เท่ากัน ด้านการพัฒนาบุคคล และด้านการ จัดสวัสดิการและกองทุนบุคลากร 2) การเปรียบเทียบการบริหารงานบุคคลโรงเรียนเอกชนเขตพื้นที่การศึกษาพัทลุง เขต 2 จำแนกตามเพศ วุฒิการศึกษา ตำแหน่ง ประสบการณ์การทำงาน และขนาดของโรงเรียน พบว่า จำแนกตามเพศ และวุฒิการศึกษามีความเห็นแตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนจำแนกตามตำแหน่ง ประสบการณ์การทำงาน และขนาด ของโรงเรียนมีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน 3) ปัญหาการบริหารงานบุคคลโรงเรียนเอกชนเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุงเขต 2 พบว่า ผู้บริหารไม่ให้ความสำคัญกับบุคลากรหรือครูผู้สอน ในการมีส่วนร่วมการแสดงความคิดเห็นทำให้บุคลากรผู้ปฏิบัติงานขาดความรู้ความเข้าใจใน ด้านการงานบุคคล ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาในการคัดเลือกสรรหาบุคลากรขาดคุณสมบัติที่เหมาะสม ขาดการจัดกิจกรรมการศึกษาดูงานที่เป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน และการจัดสวัสดิการผลประโยชน์ การเอื้ออำนวยความสะดวกมีน้อยในด้านความปลอดภัย สุขภาพอนามัยและสภาพแวดล้อม ในการทำงาน รวมทั้งค่าตอบแทนไม่สอดคล้องกับอัตราตลาดแรงงานทำให้บุคลากรขาดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน ไม่มีส่วนร่วมในการประเมินผลการปฏิบัติงานของตนเอง ข้อเสนอแนะ ผู้บริหารควรให้ความสำคัญแก่บุคลากรทุกระดับมีส่วนร่วมในการวางแผนการบริหารงานบุคคลเพื่อ ให้อัตรากำลังที่เหมาะสมกับปริมาณของงาน และการจัดสรรอัตรากำลังควรคำนึงถึงภาระงาน ที่หน่วยงานนั้นๆ รับผิดชอบ ควรมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการให้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานตลอดจนจัดให้มีสวัสดิการต่างๆ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันตลอดจนให้ทุกคนได้มีโอกาส เท่าเทียมกันเพื่อเป็นขวัญและกำลังในการปฏิบัติงานร่วมกัน

(คลิกที่ชื่อเอกสารเพื่ออ่าน) 

ส่วนหน้า

บทคัดย่อ

สารบัญ

บทที่1 บทนำ

บทที่2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

บทที่3 วิธีดำเนินการวิจัย

บทที่4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

บทที่5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

บรรณานุกรม

ภาคผนวก

ประวัติผู้วิจัย